การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก ได้มอบโอกาสให้ทีมชาติไทย (ช้างศึก) และทีมชาติไต้หวัน (ไชนีส ไทเป) ได้โคจรมาพบกันในกลุ่ม D เพื่อช่วงชิงตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้าย โดยนัดนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทีมชาติไทยจำเป็นที่จะต้องคว้าชัย เพื่อให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นสำหรับการคว้าตั๋วสู่ เอเชียน คัพ 2027 รอบสุดท้าย โดย JBO Thailand จะมาสรุปข้อมูลการแข่งขันทั้งหมดให้คุณทราบ
เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก เดือดช้างศึกบุกถล่มไชนีส ไทเป

การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 4 ระหว่างทีมชาติไต้หวัน (ไชนีส ไทเป) และทีมชาติไทย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ณ สนามไทเป มูนิซิปัล สเตเดียม (Taipei Municipal Stadium) ผลปรากฏว่าทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มการแข่งขันได้อย่างดุดัน จนสามารถบุกถล่มเอาชนะเจ้าบ้านอย่างขาดลอย ด้วยสกอร์ 6-1 ทำให้สามารถคว้าชัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ระเบิดฟอร์มทำแฮตทริกได้สำเร็จ

เกมรุกของทีมชาติไทยใน เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 4 ไทยสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าดาวรุ่งของเมืองไทยที่ทำแฮตทริกยิงคนเดียว 3 ประตู ได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังได้ประตูจาก สุภโชค สารชาติ ที่โชว์ฟอร์มทั้งยิงและจ่ายบอล เสกสรรค์ ราตรี และยังมีประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองของแนวรับไต้หวันอีก 1 ลูก
ความสำคัญสำหรับทีมชาติไทยของการแข่งขันในนัดนี้
เกมที่ต้องบุกไปเยือนไต้หวันในนัดที่ผ่านมามีความสำคัญอย่างมากต่อทีมชาติไทย โดยเฉพาะสิทธิ์ในการเข้าสู่การแข่งขัน เอเชียน คัพ 2027 รอบสุดท้าย ด้วยเหตุผล 2 ประการ โดยจะมีอะไรบ้าง ? มาลองติดตามรายละเอียดไปพร้อมกัน
- รักษาโอกาสในการเข้ารอบสุดท้าย : ทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่มที่มีการแข่งขันกันอย่างสูสีกับเติร์กเมนิสถานและศรีลังกา การที่ไทยสามารถเก็บ 3 แต้มได้ทำให้ทีมชาติไทยขึ้นสู่หัวตาราง
- เพิ่มผลต่างประตูได้เสีย : การผ่านเข้ารอบสุดท้ายหลายครั้งจะต้องพิจารณาจากผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า การที่ไทยทำได้ 6 ประตู จะช่วยสร้างผลต่างของประตูได้เสียให้แก่ชาติไทย
การที่ไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้ไทยสามารถเพิ่มโอกาสเข้ารอบสุดท้ายให้ตัวเอง รวมถึงการสร้างความแตกต่างกับทีมหัวตารางในเรื่องของผลต่างของประตูได้มากยิ่งขึ้น
ตารางคะแนนล่าสุดในกลุ่ม D อัปเดตล่าสุด
จากการแข่งขันนัดล่าสุดที่ทีมชาติไทยสามารถทำประตูได้เสียดีขึ้นอย่างมาก ส่งผลต่อตารางคะแนนในกลุ่ม D ซึ่งมีความสูสีเป็นอย่างยิ่ง โดยปัจจุบันคะแนนของไทยและเติร์กเมนิสถานเท่ากัน แต่ในส่วนของผลต่างประตูไทยสามารถนำไปได้ โดยจะมีรายละเอียดของอันดับดังนี้
- เติร์กเมนิสถาน : แข่ง 4 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 1 ผลต่างประตู +3 และมี 9 คะแนน
- ทีมชาติไทย : แข่ง 4 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 1 ผลต่างประตู +6 และมี 9 คะแนน
- ศรีลังกา : แข่ง 4 ชนะ 2 เสมอ 0 แพ้ 2 ผลต่างประตู +1 และมี 6 คะแนน
- ไต้หวัน : แข่ง 4 ชนะ 0 เสมอ 0 แพ้ 4 ผลต่างประตู -10 และมี 0 คะแนน
ภาพรวมของการแข่งขันในครั้งนี้ทำให้ไต้หวันตกรอบแน่นอน ทีมชาติไทยและเติร์กเมนิสถานยังคงต้องแข่งขันกัน เพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด โดยสถานการณ์ปัจจุบันไทยยังมีผลต่างประตูที่สูงกว่า
โปรแกรมการแข่งขันนัดต่อไปของช้างศึก
หลังจากนี้ทีมชาติไทยจะยังคงเดินหน้าเก็บคะแนนเพื่อเป้าหมายในการเข้ารอบต่อไป โดยโปรแกรมนัดต่อไปของชาติไทยในการแข่งขัน เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 5 โดยจะเป็นการพบกันระหว่างไทยและศรีลังกา ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 นัดนี้ก็เป็นอีกการแข่งขันครั้งสำคัญที่ทีมชาติไทยจำเป็นที่จะต้องคว้าชัยชนะ เพื่อรักษาสถานการณ์ในกลุ่ม D ให้ได้เปรียบมากที่สุด
วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของทีมชาติไทย
หากดูจากสถานการณ์ในกลุ่ม D ณ ตอนนี้เข้มข้นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีถึง 3 ทีมที่ยังคงมีโอกาสลุ้นแย่งตั๋วเข้ารอบสุดท้าย (ยกเว้นไต้หวัน) ทำให้การแข่งขันที่เหลือเป็นการชี้ชะตาของ ไทย เติร์กเมนิสถาน และศรีลังกา โดยเราอยากพาคุณไปวิเคราะห์โอกาสที่ทีมชาติไทยจะได้เข้าร่วมรอบสุดท้าย
1.ชี้ชะตาที่ศรีลังกา
โปรแกรมถัดไปที่ทีมชาติไทยต้องออกไปเยือนศรีลังกาถือเป็นนัดชี้ชะตา หากทีมชาติไทยสามารถเอาชนะศรีลังกาได้จะการันตีว่าศรีลังกาหมดสิทธิ์เข้ารอบทันที และจะเหลือการแย่งแชมป์กลุ่มกับเติร์กเมนิสถานในนัดสุดท้าย หากทีมชาติไทยแพ้จะทำให้สถานการณ์ยากลำบากอย่างมาก จนอาจต้องลุ้นให้เติร์กเมนิสถานสะดุดในนัดสุดท้าย
2.ความได้เปรียบจากผลต่างประตูได้เสีย
การชนะไต้หวันด้วยสกอร์ 6-1 ทำให้ผลต่างประตูได้เสียของไทยพุ่งขึ้นเป็น +6 ซึ่งดีที่สุดในกลุ่ม ณ ขณะนี้ แต่ถึงแม้ไทยจะมีสถิติ Head-to-Head กับเติร์กเมนิสถานเป็นรอง แต่การมีผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าหากทั้ง 2 ทีมจบด้วยคะแนนเท่ากันและเกณฑ์ Head-to-Head ภายใน 3 ทีมยังไม่สามารถตัดสินได้
3.เกมนัดสุดท้ายกับเติร์กเมนิสถาน
สำหรับเกมนัดสุดท้ายกับเติร์กเมนิสถานจะเริ่มในวันที่ 31 มีนาคม 2569 โดยจะเป็นการที่ทีมชาติไทยจะไปเยือนเติร์กเมนิสถาน จะเป็นนัดที่อาจตัดสินแชมป์กลุ่มโดยตรง หากไทยเอาชนะศรีลังกาในนัดที่ 5 และบุกไปเอาชนะเติร์กเมนิสถานในนัดที่ 6 เพื่อการันตีการเป็นแชมป์กลุ่ม D และคว้าตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้าย เอเชียน คัพ 2027 โดยอัตโนมัติ
JBO Thailand ชวนร่วมส่งแรงเชียร์ให้ช้างศึกไทย
ชัยชนะอันสวยงามเหนือไต้หวันด้วยสกอร์ 6-1 และเพิ่มโอกาสให้ไทยมีโอกาสได้เป็นผู้นำกลุ่ม เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่ม D จนสามารถคว้าชัยไปสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายในปี 2027 ได้ ถึงแม้สถานการณ์จะยังคงสูสี แต่ผลงานที่ยอดเยี่ยมและขวัญกำลังใจที่ดีของทัพนักเตะจะเป็นปัจจัยสำคัญในการทำภารกิจให้สำเร็จ JBO Thailand จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมส่งแรงเชียร์ให้ชาติไทยใน 2 นัดสุดท้าย
FAQ
ไม่ใช่ โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกนี้มีเพียง “แชมป์กลุ่มเท่านั้น” ที่จะได้สิทธิ์ผ่านเข้ารอบสุดท้าย เอเชียน คัพ 2027 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยอัตโนมัติ
โอกาสของทีมชาติไทยยังคงเปิดกว้างมาก เนื่องจากมี 9 คะแนนเท่ากับเติร์กเมนิสถาน และมีผลต่างประตูได้เสียดีที่สุดในกลุ่ม (+6)
นัดที่ 5 คือการออกไปเยือน ศรีลังกา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 และนัดสุดท้ายคือการบุกไปเยือน เติร์กเมนิสถาน ในวันที่ 31 มีนาคม 2569 เพื่อตัดสินแชมป์กลุ่ม













